สำหรับบริษัท
6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี

6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี

16 พฤศจิกายน 2565

6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี

16 พฤศจิกายน 2565

       หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่เพิ่งหางาน สมัครงาน ในเว็บหางานแล้วได้รับเลือกให้เข้าทำงานแบบ Work From Home เมื่อทำงานไปได้ซักระยะหนึ่ง อาจมีความรู้สึกได้ว่า ร่างกายอาจไม่เหมือนเดิม เหมือนตอนที่ทำงานแบบปกติที่ออฟฟิศ เนื่องจากการทำงานแบบ Work From Home เราไม่จำเป็นต้องเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจและร่างกายได้ การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คน WFH ต้องมี วันนี้ เว็บสมัครงาน Jobmyway เลยอยากพาทุกคนไปดู 6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

ทำไมคนทำงาน Work From Home ควรออกกำลังกาย?

-อาจทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว
การนั่งทำงาน อยู่ในสถานที่เดิมๆเป็นเวลานานๆ นอกจากจะทำให้สภาพจิตใจ อาจเกิดความเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว การออกกำลังกาย จะช่วยลดความเครียด และปล่อยสารแห่งความสุข อย่างสารเอ็นโดรฟินออกมา ทำให้จิตใจแจ่มใส มากกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายนั่นเอง

-อาจเกิดภาวะออฟฟิศซินโดรม
คนที่นั่งทำงานอยู่กับบ้านเป็นระยะเวลานานๆ อาจส่งผลให้ร่างกายเกิดสภาวะที่เมื่อยล้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ ออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ แขนขามีอาการชา มีอาการปวดกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายจึงสามารถช่วยป้องกัน และแก้ไขอาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากร่างกายจะได้ขยับ และได้ยืดเส้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย

-เกิดภาวะโรคอ้วน
หากคุณเป็นคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็จะสังเกตได้ว่า จะมีการรับประทานขนมจุกจิกตลอดทังวัน และไม่ได้ลุก หรือขยับร่างกายทำอย่างอื่นเลย ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะโรคอ้วนได้ โดยเฉพาะคนหางานกรุงเทพ ที่มักทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ มักพบเจอกับสภาวะนี้เป็นจำนวนมาก  ซึ่งภาวะนี้จะส่งผลให้เกิดโรคอันตรายต่างๆตามมาอีกมากมาย การออกกำลังกาย จึงเป็นเทคนิคสำคัญ ที่จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วน ทำให้สุขภาพ และบุคลิกของคุณดีขึ้นอีกด้วย

6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี


1.ดัมเบล
ดัมเบลถือเป็นหนึ่งในไอเท็มที่ควรต้องมีติดบ้านเอาไว้ เพราะสามารถใช้ในการบริหารร่างกายแบบที่เรียกว่า เวทเทรนนิ่ง ที่ช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เร่งระบบเผาผลาญ ช่วยให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งสำหรับสาวๆ อาจเริ่มจากการยกดัมเบลที่ข้างละ 1 - 2 กิโล ในระยะเริ่มต้น และค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นทีละนิด โดยดัมเบล สามารถนำมาเล่นได้ทั้ง การบริหารต้นแขน การบริหารต้นขาอย่างการสควอท การบริหารแกนกลางลำตัว เป็นต้น โดยดัมเบลจะมีราคาตกอยู่ที่อันละ 200 บาทขึ้นไป โดยสามารถเลือกได้ทั้งแบบยาง และแบบเหล็ก ตามความชอบได้เลย


2.แผ่นโยคะ
แผ่นโยคะ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้ เพราะสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกโยคะ ที่เป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่สามารถฝึกสมาธิไปพร้อมๆกันได้ การเล่นเวทเทรนนิ่ง หรือบอดี้เวท ที่ควรใช้แผ่นโยคะ เพื่อรองกับพืัน ไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ และการใช้แผ่นโยคะสำหรับการคาร์ดิโอ เรียกได้ว่า แผ่นเดียวสามารถออกกำลังกายได้ครบเลยนั่นเอง ซึ่งราคาของแผ่นโยคะจะอยู่ที่ 250 บาท ขึ้นไปแล้วแต่เกรดและคุณภาพ


3.รองเท้าผ้าใบ
รองเท้าผ้าใบ หลายคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้ว สำหรับการออกกำลังที่ต้องมีการกระโดด การใส่รองเท้าดีๆ จะช่วยซับแรงกระแทก และช่วยลดโอกาสในการเกิดการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี จึงควรเลือกรองเท้าผ้าใบที่มีน้ำหนักเบา ใส่สบายเท้า และระบายอากาศได้ดี ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 1,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่ยี่ห้อและคุณภาพ แต่มีข้อแนะนำว่า หากต้องการเล่นเวทเทรนนิ่ง ก็ควรเลือกรองเท้าสำหรับเวทเทรนนิ่งโดยเฉพาะ จะดีที่สุด


4.เครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจ
นอกจากการออกกำลังกายที่จำเป็นแล้ว การใส่เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันมีออกมาในรูปแบบของนาฬิกา ที่นอกจากจะสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ในขณะที่ออกกำลังกายได้แล้วนั้น ยังสามารถวัดปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยให้คุณสามารถวัดผลการออกกำลังกาย ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


5.ชุดกีฬาสำหรับออกกำลังกาย
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่หลายๆคนมองข้าม นั่นก็คือชุดสำหรับออกกำลังกาย เพราะการใส่เสื้อผ้าทั่วไป อาจทำให้รู้สึกอึดอัด และทำให้การเคลื่อนไหวในระหว่างออกกำลังกาย เป็นไปได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีหน้าอก การใส่เสื้อชั้นในออกกำลังกาย อาจทำให้รู้สึกเจ็บ เมื่อมีการกระโดด แต่ถ้าหากใส่เสื้อสปอร์ตบรา จะช่วยให้กระชับ และไม่เจ็บเวลากระโดดนั่นเอง รวมถึงเนื้อผ้าของชุดออกกำลังกายจะแห้งเร็วกว่าเมื่อเปียกเหงื่อ ทำให้ไม่อับชื้นนั่นเอง


6.ยางยืดสำหรับออกกำลังกาย
ยางยืดสำหรับออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นยางแบบสั้น ที่ใช้สำหรับการเล่นเพื่อบริหารก้น หรือยางยืดแบบยาว ที่เอาไว้ใช้ยืดเพื่ออบอุ่นร่างกาย ก็ควรมีติดบ้านเอาไว้ เพราะเป็นไอเท็มที่สามารถช่วยบริหารร่างกายได้ครบแทบทุกส่วนเลยทีเดียว

การออกกำลังกายแบ่งเป็น 2 แบบเลยก็คือ
1.การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
เป็นการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึงไม่หย่อนคล้อย โดยอาจใช้เพียงน้ำหนักตัวของตัวเอง หรือที่เรียกว่าบอดี้เวท หรือการยกดัมเบล ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน หรือถ้าต้องการให้ได้ผลดีที่สุด ก็สามารถหาคน ที่มาช่วยเทรนด์แบบออนไลน์ก็จะช่วยให้ทำท่าได้ถูกต้อง และลดอาการบาดเจ็บได้

2.การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ทำให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น และทำให้ร่างกายสดชื่น กระฉับกระเฉง เช่นการเล่นฮูลาฮูป การเต้นแอโรบิค การเล่นโยคะ เป็นต้น

คุณควรออกกำลังกายแบบไหน?
-คนที่มีน้ำหนักตัวมาก ไม่ควรออกกำลังกายที่มีการกระโดด เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ควรออกกำลังกายแบบ Low Impact จะดีที่สุด
-คนที่อยากเพิ่มกล้ามเนื้อ ควรเลือกออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อให้เกิดการขยายตัวของกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังควรพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารโดยเฉพาะโปรตีนให้ถึงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
-คนที่อยากได้ความแข็งแรง ควรออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง สลับกับคาร์ดิโอ เพื่อช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก กล้ามเนื้อ ปอด และหัวใจ ไปควบคู่กันนั่นเอง

เคล็ดลับสำคัญในการออกกำลังกาย
-ไม่ควรทานอาหารก่อนออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาที เพราะอาจเกิดอาการจุก แน่นท้องได้
-ควรดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการจุก ระหว่างออกกำลังกาย
-ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Warm Up) ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง และทำการ Cool Down หลังออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ
-ไม่ควรออกกำลังกายก่อนเข้านอน อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้นอนหลับได้ยากขึ้นนั่นเอง
-ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และทานอาหารที่หลากหลาย ไม่ควรรับประทานแค่อาหารอย่างใดอย่างนึงเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้

       จบลงไปแล้วกับ 6 ไอเท็มออกกำลังกาย ที่สาย Work From Home ต้องมี สำหรับ Jobmyway คิดว่า การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนหางานนนทบุรี , คนหางานเชียงใหม่ , คนหางานระยอง คนหางานในกรุงเทพ หรือแม้แต่เป็นผู้บริหาร ผู้รับสมัครงาน หรือทำอาชีพใดๆก็ตาม ก็ควรแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะได้สุขภาพกายที่ดี มีความมั่นใจ มีบุคลิกที่ดีขึ้นแล้วนั้น ยังทำให้สุขภาพจิตดีได้อีกด้วย ในครั้งหน้าเราจะมีเทคนิคอะไรดีๆมาให้ชมกันอีก รอติดตามชมกันได้เลย


TAGS : บทความผู้หางาน , jobmyway , บทความไลฟ์ไตล์ , work from home , ท่าออกกำลังกาย , ไอเท็มออกกำลังกาย

บทความที่ได้รับความนิยม
งานที่น่าสนใจ